เป้าหมายในชีวิตสำคัญจริงหรือ?

สำหรับใครที่สงสัยว่า “เป้าหมายในชีวิตสำคัญจริงหรือ” ต้องมาลองมองดูกันก่อนว่า แล้วถ้าไม่มีเป้าหมายในชีวิตจะเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อเด็กขาดเป้าหมายในชีวิต ปัญหาที่ตามมา คือ ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักแบ่งเวลา ไม่ตั้งใจเรียน ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ติดเกม นอนตื่นสาย ไม่มีความมั่นใจ เป็นต้น 

แต่คุณได้ลองถามเด็ก ๆ ดูบ้างไหม ว่ามีใครที่อยากโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ล้มเหลวบ้าง อยากเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ อยากเป็นคนเรียนไม่เก่ง อยากเป็นคนไม่มั่นใจ หรืออยากมีชีวิตที่ลำบาก จะมีเด็กตอบแบบนั้นจริงหรือ? ซึ่งเชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใครที่อยากเป็นแบบนั้นรวมถึงลูกของคุณด้วย แต่สิ่งที่เด็กต้องการในอนาคตนั้นแตกต่างกัน และต่างจากสิ่งที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้ จริงไหม?

เราจึงอยากแนะนำสิ่งที่เรียกว่า Soft Skills ซึ่งจะทำให้อนาคตที่เขาต้องการสอดคล้องกับสิ่งที่เขาทำในปัจจุบัน โดยเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญของเด็กทุกคน ที่จะทำให้พวกเขาสามารถรู้จัก และเข้าใจตัวเองได้เป็นอย่างดี รวมถึงรู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง และบริหารอารมณ์ของตัวเองได้ รวมถึงมีทักษะในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข เมื่อพวกเขาได้มีโอกาสเรียนรู้ และรู้จักตัวเอง ในด้านความคิด ความรู้สึก สิ่งเหล่านี้จะเสริมสร้างกระบวนการคิด และการตัดสินใจที่ดี ทั้งยังส่งเสริมให้พวกเขาแสดงพฤติกรรมที่ยอดเยี่ยมออกมา

อุปสรรคทางความคิดและความรู้สึกเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กไม่ประสบความสำเร็จ
ส่วนมากแล้ว เรามักบอกให้เขาคิดแบบนั้นแบบนี้ แต่ไม่เคยสอนให้เขาคิด “อย่างไร” เราบอกให้เขาใจเย็น แต่ไม่เคยสอนให้เขารู้จักกับอารมณ์ของตัวเอง และถ้าพวกเขาไม่เคยโหยหาความสำเร็จ นั่นเป็นเพราะความต้องการประสบความสำเร็จไม่ได้มาจากภายในตัวเขาอย่างแท้จริง

ความคิดและความรู้สึกเปรียบเสมือนโลกภายในของพวกเขา

เมื่อโลกภายในยังสับสน ยุ่งเหยิง แล้วโลกภายนอกจะสว่างได้อย่างไร? คอร์สพัฒนาทักษะชีวิตวัยรุ่น : Life 101 ของโรงเรียนพัฒนาทักษะชีวิต Inside Out Academy จึงเป็นเครื่องมือและทางออกให้พวกเขาได้ สิ่งสำคัญที่จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่ประสบการณ์ แต่คือ “ทักษะการเรียนรู้จากประสบการณ์” ซึ่งหมายถึงการถอดบทเรียนจากประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม รู้จักการดึงศักยภาพตัวเองออกมาใช้ และพัฒนาต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะประสบการณ์อาจเป็นสิ่งที่สอนลูกเราไม่ได้ แต่เราสามารถเตรียมความคิด รวมถึงวิธีและเครื่องมือให้พวกเขาก่อนที่จะปล่อยพวกเขาออกไปเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตด้วยตัวเองได้

เพราะโรงเรียนสอนการใช้ชีวิตในวัยรุ่นอย่าง Inside Out Academy รู้ดีว่า เราไม่สามารถเตรียม “อนาคตที่พร้อม” ให้พวกเขาได้ แต่เราสามารถเตรียมพวกเขาให้ “พร้อมสำหรับอนาคต” ได้

 

lesson scaled

คอร์สพัฒนาทักษะชีวิตวัยรุ่น : Life 101

Core Lessons

สำหรับบทเรียนหลักของคอร์สเสริมทักษะชีวิตสำหรับวัยรุ่น ที่โรงเรียนสอนทักษะการใช้ชีวิตอย่าง Inside Out Academy จัดทำขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในชีวิตจริง มีดังนี้ 

  • ทำความรู้จักกับตัวเอง ค้นหาตัวเอง เพื่อเจอตัวเองในวันนี้ (Self Re-engineering)
  • ทำความรู้จักกับโครงสร้างและกลไกของความคิด อารมณ์ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรม (Psycho-cybernetic)
  • เข้าใจการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเองและคนรอบข้าง (Relationship Awareness)
  • เรียนรู้เทคนิคการจัดการระบบความคิดและวิธีการบริหารอารมณ์ของตัวเอง (Stress Management)
  • พัฒนาการความสามารถในการตัดสินใจและสร้างทางเลือกที่ดีให้ตัวเองวันนี้ (Resilience Mindsets)
  • ความสำคัญ – กระบวนการ – อุปสรรค ของการตั้งเป้าหมาย (Creating Goal)
  • เรียนรู้ในสิ่งที่ควบคุมได้ – ไม่ต้องควบคุม จัดการสิ่งที่ควบคุมได้ (Psycho-somatic Management)
  • จิตวิทยาในการสร้างนิสัยและแรงกระตุ้นในตัวเอง (Ritual for Success)
  • ทบทวนเนื้อหาพร้อมขัดเกลาเทคนิคเพื่อนำไปต่อยอดในอนาคต

รูปแบบการเรียนและการสอนที่ครอบคลุม

Inside Out Academy เป็นโรงเรียนสอนทักษะชีวิตสำหรับวัยรุ่น มีคอร์ส Life Skills ซึ่งมีรูปแบบการเรียนและการสอนที่ครอบคลุม ประกอบด้วย 

  • Lecture (เพื่อให้น้อง ๆได้มีโอกาสกลับไปทบทวนบทเรียนต่าง ๆ ที่ได้เรียน)
  • Workshops (การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สามารถเปิดประสาทสัมผัสในการเรียนรู้และความเข้าใจ)
  • Mental activities (กิจกรรมและเกมที่ทำให้รู้จักภาพและเสียงในจินตนาการ)
  • Debate & discussion (การถกเถียงและการแสดงออกทางความคิดเพื่อล้วงหาคำตอบของปัญหาในเชิงจิตวิทยา)
  • Group discussion (แสดงความคิดเห็นและรับฟังแนวคิดข้อสรุปจากเพื่อนต่างวัย)

หมายเหตุ: ผู้ปกครองจำเป็นต้องเข้าร่วมประชุมแนะแนวผู้ปกครอง เพื่อทราบและเข้าใจบทเรียนที่ลูกหลานได้เรียน รวมถึงรับฟังแนวทางการสนับสนุนพวกเขาต่อไป

พิมพ์เขียวเด็กแต่ละคน (DNA Blueprint)

งานวิจัยของ Dr. Bruce Lipton – Stem cells biologist (นักชีววิทยาเซลล์ต้นกำเนิด) และ Dr. Joe Dispenza Neuroscientist (นักประสาทวิทยา)

ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่า จุดเด่นและจุดด้อยทางความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ของพ่อและแม่ สามารถถ่ายทอดไปยังลูกผ่าน DNA ของเราได้ ซึ่งจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 20% แต่อีก 80% เกิดจากการเลี้ยงดู รวมถึงการให้ความรู้ความเข้าใจในการอ่านพิมพ์เขียวของตัวเอง (Awareness) นั่นคือการสอนให้พวกเขาเข้าใจในกระบวนการคิด และวิธีคิด รู้จักและเข้าใจในเรื่องอารมณ์ตัวเอง รวมถึงรู้วิธีสร้างและสังเกตนิสัยที่จะพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จในชีวิต เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนมีโอกาสเรียนรู้ไม่ว่าจะเกิดมาในครอบครัวหรือสังคมแบบไหนก็ตาม

สิ่งที่เป็นอุปสรรคทำให้พวกเขา ไม่ลงมือทำ ไม่พยายาม ไม่ทำอย่างสม่ำเสมอ ยอมแพ้เร็วเกินไป คิดว่าตัวเองดีไม่พอ ล้วนมาจากขีดจำกัดภายใน “Thinking Limitations” ไม่ว่าจะเป็นขีดจำกัดทางความคิด ขาดความรู้และความสามารถในการบริหารจัดการอารมณ์ของตัวเอง และมองไม่เห็นถึงเส้นทางชีวิตของตัวเอง ที่สำคัญคือความชัดเจนในเป้าหมายชีวิต ซึ่งนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เมื่อเราทำให้เขาเห็นความคิดของตัวเอง เด็กจะสามารถเรียบเรียงความคิดออกมาเป็นกระบวนการได้ ทำให้เขารู้จักความรู้สึกของตัวเอง เด็กจึงสามารถบริหารความรู้สึกตัวเองเป็น สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวมอบทางเลือกในการดำเนินชีวิตของพวกเขาในอนาคต

Inside Out Academy เป็นสถาบันสอนทักษะชีวิตวัยรุ่น ที่นำแนวคิดเกี่ยวกับการอ่านพิมพ์เขียวของตัวเอง (Awareness) มาใช้ในการสอนคอร์สพัฒนาทักษะสังคมในวัยรุ่น เพื่อเพิ่มพูนทักษะการจัดการกับอารมณ์ ความคิดของตนเองอย่างเหมาะสม และแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมในเชิงสร้างสรรค์ต่อไป